ภาพยนตร์สงครามจาก Netflix ที่ตีแผ่ความจริงอันโหดร้ายของแนวรบสงครามโลกครั้งที่ 1 ดูหนัง ที่เล่าเรื่องราวผ่านสายตาของ “พอล เบาม์เมอร์” เด็กหนุ่มเยอรมันผู้เต็มไปด้วยความฝัน ความเชื่อ และความรักชาติ ก่อนจะถูกส่งเข้าสู่สนามรบที่ทำลายทั้งร่างกายและจิตใจของเขาอย่างสิ้นเชิง All Quiet on the Western Front แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง สร้างจากนวนิยายปี 1929 ของ Erich Maria Remarque เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามที่ดัดแปลงจากหนังสือต่อจาก เวอร์ชัน ปี 1930 และ 1979 เขียนบท กำกับ และร่วมอำนวยการสร้างโดย เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์
นักแสดง/นำแสดงโดย
- เฟลิกซ์ คัมเมอเรอร์ รับบทเป็น พอล เบาม์เมอร์
- อัลเบรชท์ ชุค รับบทเป็น สตานิสลอส “แคท” คัตซินสกี
- อารอน ฮิลเมอร์ รับบทเป็น อัลเบิร์ต ครอปป์
- มอร์ริทซ์ เคลาส์ รับบทเป็น ฟรานซ์ มุลเลอร์
- เอดิน ฮาซาโนวิช รับบทเป็น จาเดน สแต็คฟลีต
- แดเนียล บรูห์ล รับบทเป็น แมทเธียส เออร์ซเบอร์เกอร์
- ธิโบลต์ เดอ มงตาเลมแบร์ รับบทเป็น นายพลเฟอร์ดินันด์ ฟอช

อ่านเรื่องย่อของ All Quiet on the Western Front แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
เรื่องเริ่มในปี 1917 เมื่อ พอล เบาม์เมอร์ และเพื่อนร่วมเรียนอายุ 17 ปีสมัครเข้าร่วมกองทัพเยอรมัน ด้วยความเชื่อในอุดมการณ์และเกียรติยศ พวกเขาได้รับเครื่องแบบที่ถูกส่งต่อมาจากทหารผู้ล่วงลับ สะท้อนถึงว่าชีวิตทหารคือสิ่งที่ถูกใช้แล้วทิ้งได้ ที่แนวหน้า พอลและเพื่อนร่วมกอง อัลเบิร์ต, ฟรานซ์, จาเดน, ลุดวิก ได้รู้จัก แคท ทหารอาวุโสผู้เป็นเหมือนพี่เลี้ยง เขาช่วยให้พวกเขาผ่านคืนแรกในสนามเพาะพันธุ์ความตาย

คืนแรก ลุดวิก ถูกเหยียบตายโดยถูกยิงกลางสนาม และพวกเขาต้องเผชิญสภาพของสงครามที่โหดร้ายอย่างรวดเร็ว ต่อมา พอลและแคท ถูกส่งไปรบในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และได้ลักเป็ดเพื่อแบ่งกันกินกับเพื่อน ทว่าแคทป่วยและพอลพาเขาไปส่งหมอ แต่แคทตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยส้อม เพราะไม่อยากปล่อยพอลถูกจับ ขณะที่นักการเมืองเยอรมัน แมทเธียส เออร์ซเบอร์เกอร์ กำลังเจรจาสงบศึก ทหารในสนามกลับถูกบังคับให้ลุยอีกครั้ง แม้สงครามใกล้จบลงแล้วก็ตาม

ดูหนัง รีวิวหนัง All Quiet on the Western Front แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
บทภาพยนตร์ All Quiet on the Western Front แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง เวอร์ชัน 2022 ดัดแปลงจากนวนิยายคลาสสิกของ Erich Maria Remarque ได้อย่างลึกซึ้งและซื่อสัตย์ต่ออารมณ์ต้นฉบับ แม้มีการปรับโครงเรื่องบางส่วนเพื่อให้เข้ากับบริบทภาพยนตร์ แต่ยังคงแก่นสำคัญไว้ครบ ความไร้สาระของสงครามและการสูญเสียความเป็นมนุษย์ บทภาพยนตร์ดำเนินอย่างช้าแต่หนักแน่น พาเราจมไปกับความสิ้นหวังทีละน้อย การเขียนบทมีจังหวะนิ่งที่ตั้งใจให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดและถูกบีบคั้นทางอารมณ์ เฟลิกซ์ คัมเมอร์เรอร์ (Felix Kammerer) รับบท พอล เบาม์เมอร์ ได้อย่างน่าทึ่งสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ การแสดงของเขาเต็มไปด้วยความละเอียดในแววตาและสีหน้า ผลงานของผู้กำกับ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ และผู้กำกับภาพ เจมส์ เฟรนด์ คือหัวใจของหนังเรื่องนี้ ภาพสีน้ำเงินเทา หม่น และหนาวเย็นสะท้อนความตายและสิ้นหวังในสนามรบอย่างตรงไปตรงมา

ฉากขุดสนามเพลาะ ฉากโคลน และฉากควันไฟถูกถ่ายทอดด้วยกล้องแฮนด์เฮลด์และมุมกล้องกดต่ำ ทำให้ผู้ชมที่ ดูหนัง รู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบจริง ๆ ความสมจริงของภาพและการจัดแสงที่หม่นเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่กำลังดับลงอย่างมีนัยยะ ทีมงานสร้างฉากสนามเพลาะได้สมจริงระดับสารคดี ทุกองค์ประกอบตั้งแต่โคลน เสื้อผ้า ไปจนถึงอุปกรณ์ของทหารดูเก่าจริง เหมือนผ่านการใช้งานหลายเดือน ความละเอียดในดีเทลเหล่านี้ทำให้หนังมีความน่าเชื่อถือสูง เสียงในหนังนี้คือ “อาวุธ” อีกชนิดหนึ่ง เสียงระเบิด เสียงปืน เสียงลมหายใจ และเสียงเครื่องจักรในดนตรีประกอบของ โวล์คเกอร์ เบอร์เทลมันน์ ให้ความรู้สึกเยือกเย็น สะท้อนความบ้าคลั่งของสงคราม

Leave a Reply