ลองจินตนาการถึงความโดดเดี่ยวที่ถูกฉีกขาดด้วยความหวาดกลัว คุณถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีเพียงเสียงกระซิบจากปลายสายโทรศัพท์ที่คอยบอกเล่าชะตากรรมของคนที่คุณรักที่สุด The Desperate Hour ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย คืองานโชว์ฝีมือด้านการแสดงของนักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง นาโอมิ วัตส์ ที่ต้องแบกรับความกดดันทางอารมณ์ทั้งหมดไว้บนไหล่ เธอจะนำพาคุณไปสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง การตัดสินใจที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน และการต่อสู้เพื่อคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต ดูหนัง ภายใต้การกำกับอันเชี่ยวชาญของ ฟิลิป นอยซ์ (จาก Salt และ Clear and Present Danger) ทุกองค์ประกอบของภาพยนตร์ถูกออกแบบมาเพื่อบีบคั้นผู้ชมให้หายใจไม่ทั่วท้องและรู้สึกถึงการแข่งกับเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นักแสดง/นำแสดงโดย
- นาโอมิ วัตต์ รับบทเป็น เอมี่
- คอลตัน กอบโบ รับบทเป็น โนอาห์
- แอนดรูว์ ชอว์น รับบทเป็น โรเบิร์ต เอลลิส
- เซียร์ร่า มอลต์บี้ รับบทเป็น เอมิลี่
- เดวิด เรอาเล่ รับบทเป็น ซีเจ
- จอช โบว์แมน รับบทเป็น ตำรวจฉุกเฉิน
- เอดี เมอร์แมน รับบทเป็น แม่ของเอมี่

อ่านเรื่องย่อของ The Desperate Hour ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย
เอมี คาร์ คุณแม่ลูกสองที่เพิ่งสูญเสียสามีไป ตัดสินใจลาหยุดงานเป็นการส่วนตัว เธอกำลังส่งเอมีลี่ ลูกสาวตัวน้อยขึ้นรถโรงเรียน ส่วนโนอาห์ ลูกชายคนโตของเธอยังคงนอนอยู่บนเตียงและบอกว่าเหมือนจะไม่สบาย เอมีจึงออกไปวิ่งจ็อกกิ้งในป่า โดยต้องรับสายโทรศัพท์หลายสายในขณะที่วิ่ง ไม่นานหลังจากพบกับรถตำรวจหลายคันที่แล่นไปอย่างเร่งรีบ เอมีก็ได้รับข้อความแจ้งทางโทรศัพท์มือถือว่าโรงเรียนในพื้นที่ทั้งหมดถูกปิด

เอมี่พยายามหาแหล่งข่าวเพิ่มเติมอย่างสุดชีวิต เธอได้รู้ว่ามีคนร้ายกราดยิงที่โรงเรียนของโนอาห์และเอมีลี่เรียนอยู่ ซึ่งมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโดนลูกหลง เมื่อเธอกลับมาบ้านก็พบว่าโนอาห์ไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าไปโรงเรียนหรือเปล่า เอมีจึงรีบวิ่งไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุที่อยู่ห่างออกไปไกลจากป่า เพื่อที่จะช่วยเหลือลูกๆ ของเธอ และมือปืนคือใครก็ยังไม่รู้ และเอมีมีเพียงโทรศัพท์ที่แบตใกล้จะหมดเครื่องเดียวที่เป็นที่พึ่งของเธอที่จะช่วยให้เธอคลี่คลายเหตุการณ์นี้

ดูหนัง รีวิวหนัง The Desperate Hour ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย
ภาพยนตร์ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของการเล่าเรื่องแบบมินิมัลลิสต์ โดยอาศัยความสามารถของผู้กำกับ ฟิลิป นอยซ์ ในการสร้างภาวะบีบคั้นที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดตลอดทั้งเรื่อง เขาเลือกที่จะจำกัดพื้นที่และเครื่องมือสื่อสารของตัวละครหลักอย่างชาญฉลาด เพื่อเน้นย้ำถึงความโดดเดี่ยวและความไร้อำนาจท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้จังหวะของภาพยนตร์เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่แทบจะไม่เคยผ่อนคลายเลย แกนกลางของ The Desperate Hour ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย ทั้งหมดคือการแสดงอันทรงพลังของ นาโอมิ วัตส์ ซึ่งรับบทเป็น เอมี่ คาร์ เธอแบกรับน้ำหนักของเรื่องราวทั้งหมดไว้บนไหล่เกือบตลอดเวลา ตั้งแต่ความสับสนในนาทีแรก ความตกใจสุดขีด ไปจนถึงการตัดสินใจอย่างสิ้นหวังในวินาทีสุดท้าย ทุกการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาของเธอคือการถ่ายทอดความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่เลวร้ายที่สุดได้อย่างลึกซึ้งและสมจริง การแสดงของเธอไม่ได้อาศัยบทพูดที่ซับซ้อน แต่ใช้การตอบสนองต่อเสียงจากโทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ ซึ่งเป็นการนำพาผู้ชมเข้าสู่การ ดูหนัง ในสภาวะอารมณ์ที่แตกสลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านของบทภาพยนตร์นั้น มีความฉลาดในการใช้ฉากหลังที่ตัดกันอย่างรุนแรง คือความสงบเงียบของป่าที่รายล้อมตัวละคร กับเสียงจากโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยความโกลาหลผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งเป็นการขับเน้นให้ความกดดันทางจิตใจเพิ่มขึ้นทวีคูณ บทพูดส่วนใหญ่จึงเป็นไปอย่างกระชับและตรงประเด็น เน้นไปที่การปะติดปะต่อสถานการณ์และการตัดสินใจภายใต้ความกดดัน ทำให้องค์ประกอบของการดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่อืดอาด อย่างไรก็ตาม บางครั้งการตัดสินใจของตัวละครอาจดูเป็นไปตามกลไกที่จำเป็นต้องขับเคลื่อนพล็อตไปข้างหน้าบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ตัวภาพยนตร์สามารถรักษาความน่าเชื่อถือและความลุ้นระทึกไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง และตอกย้ำถึงความสามารถของผู้สร้างในการสร้างสรรค์หนังสยองขวัญทางจิตวิทยาที่กระตุ้นอะดรีนาลีนได้อย่างยอดเยี่ยม

Leave a Reply